ก่อนอื่นบทความนี้ต้องขอนิยามผู้เทรดก่อนนะครับ ว่าเป็นสายกราฟ กล่าวคือ ในช่วงแรก ซื้อขายแบบระบบปิด คือดูแต่กราฟ ไม่ฟังข่าว คุยกับเพื่อนแต่ไม่เอามาเจอบนเข้าระบบ แต่ถูกวางเงื่อนไข จนในที่สุดก็เปิดรับข้อมูลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในการเทรดระบบตัวเอง
บทความนี้ เพื่อความรวดเร็ว จะไม่ขอพูดถึง technical term ทางด้านจิตวิทยาเกี่ยวกับการวางเงื่อนไขแบบ classic เช่น CS, CR, UCS, UCR แต่จะขออธิบายเป็นภาษาไทยให้เข้าใจกระชับที่สุด
ลองมาดูสถานการณ์เกี่ยวกับการวางเงื่อนแบบคลาสสิค ที่อิวาน ฟาบลอฟ ทดลองกับสุนัข
1. สุนัขเห็นผงเนื้อ แล้วน้ำลายไหล
2. สุนัขได้ยินเสียงกระดิ่ง แล้วไม่ตอบสนอง เพราะสุนัขไม่มีประสบการณ์เชิงบวกกับการได้ยินเสียงกระดิ่งมากก่อน กล่าวคือ สั่นกระดิ่งไม่เถอะ มันก็ไม่รู้ไม่สนใจว่าเกิดอะไรกับชีวิตมัน
3. ผู้ทดลอง น้ำผงเนื้อ พร้อมกับสั่นกระดิ่ง ทำนาน ๆ จนสุนัขเกิดการเรียนรู้ เชื่อมโยงผงเนื้อกับกระดิ่ง ว่าเป็นสิ่งเร้าทางบวกที่คล้ายกัน
4.ที่นี้สุนัขได้ยินแต่กระดิ่ง ก็จะน้ำลายไหลเอง โดยที่ไม่มีผงเนื้อ
ที่นี้ กลับมาดูตัวอย่างเกี่ยวกับ เทรดเดอร์ที่ใช้ระบบตัวเองอยู่ดี ๆ แล้วจู่ ๆ ก็นำอคติทั้งทางบวกและทางลบเข้ามาเกี่ยวข้องกับระบบเทรดของตัวเอง
1. สุนัขเห็นผงเนื้อ แล้วน้ำลายไหล >> เปรีบได้กับระบบสั่งให้ ซื้อ ขาย แล้วได้กำไร
2. สุนัขได้ยินเสียงกระดิ่ง
แล้วไม่ตอบสนอง
เพราะสุนัขไม่มีประสบการณ์เชิงบวกกับการได้ยินเสียงกระดิ่งมากก่อน กล่าวคือ
สั่นกระดิ่งไม่เถอะ มันก็ไม่รู้ไม่สนใจว่าเกิดอะไรกับชีวิตมัน >> เปรียบเสมือนการรับสิ่งเร้าจากภายนอก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เทรดตามระบบตัวเองตามปกติ
3.
ผู้ทดลอง น้ำผงเนื้อ พร้อมกับสั่นกระดิ่ง ทำนาน ๆ จนสุนัขเกิดการเรียนรู้
เชื่อมโยงผงเนื้อกับกระดิ่ง ว่าเป็นสิ่งเร้าทางบวกที่คล้ายกัน >> เปรียบเหมือนการรับสิ่งเร้าเข้ามาพร้อมทั้งได้กำไร จนเริ่มชินชา แยกไม่ออกว่า สรุปที่ได้กำไร เพราะระบบอย่างเดียว หรือ ระบบและข้อมูลภายนอกที่คล้อยตาม
4.ที่นี้สุนัขได้ยินแต่กระดิ่ง ก็จะน้ำลายไหลเอง โดยที่ไม่มีผงเนื้อ >> ภายหลัง ลืมตัว จะเทรดต้องติดตามการวิเคราะห์ บางที เผลอ ๆ เทรดโดยไม่ดูกราฟซะงั้น
บทความนี้ เป็นบทความที่ยาว เพราะต้องอาศัยการอธิบายที่ผมเขียนให้เรียบง่ายที่สุด ขอบคุณที่อ่านจบครับ เจอกันบทความหน้าครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น