วางแผงse-edทั่วประเทศ 8 กุมภาพันธ์ 2557

วางแผงse-edทั่วประเทศ 8 กุมภาพันธ์ 2557
หนังสือเล่มนี้ ศึกษาจริง เขียนจริง เทรดจริง เจ็บจริง สำเร็จได้จริง. หากไม่ได้อ่านเล่มนี้ อาจพลาดอีกแนวคิด.. ในการหาหุ้นพลิกชีวิต

วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สถิติที่มาของ "Sell in May and go away"

**TAKE YOUR OWN RISK**

สวัสดีครับ ตอนแรกต้องขอโทษที่อาทิตย์ก่อนไม่ได้เขียนบทความครับ พอดี ดำดิ่งลงไปในหนังสือหุ้นเยอะไปหน่อย

หลายท่านคงได้ยินเพื่อน หรือ นักวิเคราะห์ พูดกันในทีวี ว่า "Sell in May and go away" คือ ให้ขายเดือนพฤษภา เพราะส่วนมาก หุ้นจะร่วงในช่วงนั้น ด้วยปัจจัยต่าง ๆ

เราเป็นนักวิเคราะห์สายกราฟ เราต้องเชื่อในตัวเลข ดังนั้น ผมจึงไปหาสถิติที่มาของวลี "Sell in May and go away"  ซึ่งได้มาตามภาพดังนี้ครับ

ภาพสถิติ การขึ้น ลง ของ ดาวโจนส์ ในช่วงระยะเวลาต่าง ๆ


จากด้านบน จะเป็นภาพสถิติต่าง ๆ เกี่ยวกับการขึ้น ลง ของดาวโจนส์ ในช่วงระยะเวลาต่าง ๆ ซึ่งรวบรวมโดย Stock Almanac Team ซึ่งอธิบายอย่างง่าย ๆ ว่า

หากนำเงินไปลงทุนในดาวโจนส์ สมมุติให้ดาวโจนส์เป็นหุ้นตัวหนึ่ง แล้วตีเป็นเงินลงทุนก้อนแรก10,000$

ลงทุนประเภทที่ 1 : ซื้อในวันที่ 1 May แล้วไปขายในวันที่ 31 Oct แล้วเอาเงินที่ได้จาก 31 Oct ปีนี้ ไปซื้อหุ้นอีกครั้งในวันที่ 1 May ปีหน้า ซื้อ 1 ครั้ง ขาย 1 ครั้ง ต่อปี ไปเรื่อย ๆ ผ่านไป 57 ปี เงินจะเหลือ 6,488$ (จากเงินตั้งต้น 57 ปีก่อน ที่ 10,000$)

ลงทุนประเภทที่ 2 : ซื้อในวันที่ 1 November ปีนี้ แล้วไปขายในวันที่ 30 April ของปีหน้า แล้วเอาเงินที่ได้จาก 30 April ไปซื้อหุ้นอีกครั้งในวันที่ 1 November ซื้อ 1 ครั้ง ขาย 1 ครั้ง ไปเรื่อย ๆ ผ่านไป 57 ปี เงินจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,722,490$ (จากเงินตั้งต้น 57 ปีก่อน ที่ 10,000$)

จุดประสงค์การเขียนบทความนี้ ไม่ได้ให้ท่านขายหุ้น ในวันที่ 31 เมษายน แต่เป็นเพียงการนำสถิติมาอ้างอิงถึงวลี "Sell in May and go away" ซึ่งเป็นการวิจัยจากหุ้นต่างประเทศ ไม่ใช่การวิจัยจากหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทย มีห้าร้อยกว่าตัว มีทั้งหุ้นที่ตาม SET, หุ้นไม่ตาม SET ดังนั้น ก็ขอให้เลือกหุ้น ตามระบบที่เหมาะกับตัวท่านที่สุด

Enjoy Trading ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น